วันอังคารที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

บทที่6

หน่วยการเรียนรู้ที่6
แฟ้มข้อมูล
จงเลือคำตอบที่ถูกต้องเพียงคำตอบเดียว
1. ที่เก็บรวบรวมข้อมูลหลายๆ ระเบียน ซึ่งเป็นเรื่องเดียวกัน เรียกว่า
ข. แฟ้มข้อมูล

2. ข้อใดไม่ใช่ชนิดของแฟ้มข้อมูลที่แบ่งตามลักษณะของข้อมูลที่จัดเก็ฐอยู่ในแฟ้ม
ค. แฟ้มแสดงผล

3. แฟ้มข้อมูลที่เก็บข้อมูลไว้อย่างค่อนข้างถาวร และมีความทันสมัยอยู่ตลอดเวลา คือ
ง. แฟ้มหลัก

4. แฟ้มข้อมูลใดที่เก็ฐรายการเปลี่ยนแปลง เพื่อนำไปปรับปรุงแฟ้มข้อมูลหลักต่อไป
ค. แฟ้มข้อมูลอดีต

5. แฟ้มชนิดใดใช้เก็บผลที่เกิดขึ้นจากการจัดการของแฟ้มอื่นๆ
ค. แฟ้มรายการเปลี่ยนแปลง

6. ข้อใดเป็นชนิดของแฟ้มข้อมูลที่แบ่งตามลักษณะการใช้งาน
ง. ถูกทุกข้อ

7. แฟ้มหลักสามารถจัดเป็นแฟ้มชนิดใดได้
ค. แฟ้มนำเข้า/แสดงผล

8. การจัดระเบีบแฟ้มข้อมูลในระดับเบื่องต้นสามารถแบ่งได้เป็น
ก. แฟ้มข้อมูลแบบลำดับและแฟ้มข้อมูลแบบสุ่ม

9. แฟ้มข้อมูลชนิดใดที่จัดเก็บระเบียนต่างๆ เรียงต่อกันอย่างต่อเนื่องตามลำดับ
ก. แฟ้มข้อมูลแบบลำดับ

10. การจัดเก็บข้อมูลในแฟ้มข้อมูลแบบลำดับ สามารถจัดเก็บในสื่อบันทึกแบบใด
ง. ถูกทุกข้อ
11.การจัดเก็บระเบียนข้อมูลเรียงตามลำดับคีย์หลักในแฟ้มข้อมูลแบบลำดับ เป็นการจัดเก็บในลักษณะใด
ค. Orer File

12.การจัดเก็ฐระเบียนข้อมูลแบบไม่เรียนตามลำดับคีย์หลักในแฟ้มข้อมูลแบบลำดับ เป็นการจัดเก็บในลักษณะใด
ก.Pile

13. ข้อใดเป็นข้อมจำกับของแฟ้มข้อมูลแบบลำดับ
ข. ไม่สามารถเข้าถึงระเบียนที่ต้องการได้โดยตรง

14.แฟ้มข้อมูลชนิดใดที่มีการกำหดนความสัมมพัน์ระหว่างตำแหน่งที่เก็บข้อมูลกับแขตข้อมูลที่เป็นเขตหลัก
ค. แฟ้มข้อมูลแบบส่ม

15.แฟ้มข้อมูลชนิดใดที่สามารถเข้าถึงระเบียนที่ต้องการได้โดดยตรง
ค. แฟ้มข้อมูลแบบสุ่ม

16.แฟ้มข้อมูลชนิดใดที่ทุกระเบียนมีขนาดเท่ากัน
ก. แฟ้มข้อมูลแบบบลำดับ

17. ข้อใดเป็นข้อจำกัดของแฟ้มข้อมูลแบบสุ่ม
ง. เปลืองเนื้อที่เก็บข้อมูลในสื่อบันทึก

18. แฟ้มข้อมูลชนิดใดทีสามารถเข้าถึงระเบียนที่ต้องการได้ทั้งแบบลำดับและแบบสุ่ม
ง. ถูกทั้งข้อ ข. และ ค.

19.การสร้างแฟ้มข้อมูลแบบลำดับดรรชนีวิธีใดที่มีการแบ่งเนื้อที่เป็นส่วนที่ใช้เก็บตรรชนี และส่วนที่ใช้เก็บข้อมูล
ค. แฟ้มข้อมูลแบบลำดับดรรชนี


20.ส่วนเก็บข้อมูลในแฟ้มข้อมูลแบบลำดับดรรชนี ที่สร้างด้วยวิธี Prime and Overflow Data Area
มีการแบ่งเนื้อที่เป็นส่วนใดบ้าง
ง. ถูกทั้งข้อ ก. และ ข.

21. ส่วนเก็บดรรชนีในแฟ้มข้อมูลแบบลำดับดรรชนีที่สร้างด้วยวิธี Prime and Overflow Data Area ข้อใดไม่ใช่การแบ่งระดับดรรชนี
ข. Sector Index

22.ส่วนเก็บดรรชนีในแฟ้มข้อมูลแบบลำดับดรรชนี ที่ส้างด้วยวิธี Index and Data Blocks มีโครงสร้างเป็นแบบใด
ค. แบบต้นไม้

23.แฟ้มข้อมูลชนิดใดที่สามารถมีคีย์หลักได้หลายตัว
ง. แฟ้มข้อมูลแบบหลายคีย์

24.ในแฟ้มข้อมูลแบบหลายคีย์การจัดระเบียบแฟ้มแบบใดที่ใช้วิธีผกผันระหว่างความสัมพันธ์ของ
ระเบียนกับค่าของคีย์หลัก
ก. การจัดระเบียบแฟ้มแบบ Inverted

25.ในแฟ้มข้อมูลแบบหลายคีย์ การจัดระเบียบแฟ้มแบบใดที่ใช้วิธีผกผันระหว่างคีย์รองกับคีย์หลัก
ง. ถูกทั้งข้อ ก. และ ข.

26.ในแฟ้มข้อมูลแบบหลายคีย์การจัดระเบียบแฟ้มแบบใดที่มีการLinked list ช่วยในการค้าหาข้อมูล
ค. การจัดระเบียบแฟ้มแบบหลายคีย์

27.ในแฟ้มข้อมูลแบบหลายคีย์การจัดระเบียลแฟ้มแบบใดที่ใช้การเชื่อมโยงค่าของคีย์รองเข้าด้วย
กัน
ค. การจัดการแฟ้มแบบหลายคีย์

28. ข้อใดเป็นวิธีการประมวลผลแฟ้มข้อมูล
ง. ถูกทั้งข้อ ก. และ ข.

29. On-Line Processing เป็นการประมวลผลแบบใด
ข. แบบโต้ตอบ

30. การประมวลผลแบบใดที่มีการปรับปรุงข้อมูลทันทีที่เกิดรายการ
ง. ถูกทั้งข้อ ก. และ ข.

บทที่5

หน่วยการเรียนรู้ที่ 5
ระบบเลขจำนวนและรหัสแทนข้อมูลในคอมพิวเตอร์

จงเลือกคำตอบที่ถูกต้องเพียงคำตอบเดียว

1. คอมพิวเตอร์ทำงานกับข้อมูลที่อยู่ในรูปแบบของเลขฐานใด
ก. เลขฐานสอง
2. ตัวเลขในระบบเลขฐานสอง ประกอบด้วย
ง. 0 ถึง 9
3. ตัวเลขในระบบเลขฐานแปด ประกอบด้วย
ค. 0 ถึง 7
4. ตัวเลขในระบบเลขฐานสิบ ประกอบด้วย
ข. 0 ถึง9
5. ตัวเลขในระบบเลขฐานสิบหก ประกอบด้วย
ก. 0 ถึง F
6. (111)2 มีค่าเป็นเท่าใดในเลขฐานสิบ
ค. 7
7. 12 มีค่าเป็นเท่าใดในเลขฐานสอง
ง. (1100)2
8. ตัวเลขในข้อใดไม่ถูกต้อง
ก. (110)8
9. ค่า (132)8 มีค่าเป็นเท่าใดในเลขฐานสิบ
ก. 90
10. 797 มีค่าเป็นเท่าใดในเลขฐานแปด
ค. (1435)8
11. (13A)16 มีค่าเป็นเท่าใดในเลขฐานสิบ
ง. 314
12. 331 มีค่าเป็นเท่าใดในเลขฐานสิบหก
ข. (14B)16
13. รหัสแทนข้อมูลชนิดแรกที่เกิดขึ้น คือรหัสใด
ง. BIT
14. รหัสมาตรฐานที่ใช้กับไมโครคอมพิวเตอร์ คือ รหัสใด
ก. ASCII
15. รหัสแทนข้อมูลที่ใช้กับเครื่อง IBM ระดับมินิคอมพิวเตอร์ขึ้นไป คือรหัสใด
ค. EBCDIC

บทที่5

หน่วยการเรียนรู้ที่ 5
ระบบเลขจำนวนและรหัสแทนข้อมูลในคอมพิวเตอร์

จงเลือกคำตอบที่ถูกต้องเพียงคำตอบเดียว

1. คอมพิวเตอร์ทำงานกับข้อมูลที่อยู่ในรูปแบบของเลขฐานใด
ก. เลขฐานสอง
2. ตัวเลขในระบบเลขฐานสอง ประกอบด้วย
ง. 0 ถึง 9
3. ตัวเลขในระบบเลขฐานแปด ประกอบด้วย
ค. 0 ถึง 7
4. ตัวเลขในระบบเลขฐานสิบ ประกอบด้วย
ข. 0 ถึง9
5. ตัวเลขในระบบเลขฐานสิบหก ประกอบด้วย
ก. 0 ถึง F
6. (111)2 มีค่าเป็นเท่าใดในเลขฐานสิบ
ค. 7
7. 12 มีค่าเป็นเท่าใดในเลขฐานสอง
ง. (1100)2
8. ตัวเลขในข้อใดไม่ถูกต้อง
ก. (110)8
9. ค่า (132)8 มีค่าเป็นเท่าใดในเลขฐานสิบ
ก. 90
10. 797 มีค่าเป็นเท่าใดในเลขฐานแปด
ค. (1435)8
11. (13A)16 มีค่าเป็นเท่าใดในเลขฐานสิบ
ง. 314
12. 331 มีค่าเป็นเท่าใดในเลขฐานสิบหก
ข. (14B)16
13. รหัสแทนข้อมูลชนิดแรกที่เกิดขึ้น คือรหัสใด
ง. BIT
14. รหัสมาตรฐานที่ใช้กับไมโครคอมพิวเตอร์ คือ รหัสใด
ก. ASCII
15. รหัสแทนข้อมูลที่ใช้กับเครื่อง IBM ระดับมินิคอมพิวเตอร์ขึ้นไป คือรหัสใด
ค. EBCDIC

บทที่4

หน่วยการเรียนรู้ที่ 4
การประมวลผลข้อมูล

จงเลือกคำตอบที่ถูกต้องเพียงคำตอบเดียว

1. การจัดการกับข้อมูลที่รับเข้ามาด้วยวิธีการต่างๆเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ เรียกว่า
ค. การประมวลผลข้อมูล

2. ผลลัพธ์ที่ได้จากการประมวลผลข้อมูล เรียกได้อีกอย่างหนึ่งว่า
ก. สารสนเทศ

3. ขั้นตอนการประมวลผลข้อมูล ประกอบด้วย
ง. ข้อ ก. ข. และ ค. ประกอบกัน

4. การรับข้อมูลเข้าสู่คอมพิวเตอร์ ทำผ่านทางใด
ค. หน่วยรับข้อมูล

5. ข้อใดต่อไปนี้ แสดงขั้นตอนการประมวลข้อมูลได้อย่างถูกต้อง
ข. รับข้อมูล ประมวลผล แสดงผล

6. ข้อใดไม่ใช่ประเภทของการประมวลผลข้อมูล
ข. การประมวลผลด้วยเครื่องคิดเลข

7. การประมวลผลข้อมูลวิธีใด ที่เหมาะจะใช้กับงานที่มีปริมาณข้อมูลน้อย และมีขั้นตอนการประมวลผลไม่ซับซ้อน
ค. การประมวลผลด้วยมือ

8. การประมวลผลข้อมูลวิธีใด ที่ต้องใช้ทั้งแรงงานคนและเครื่องจักรผสมกัน
ง. การประมวลผลด้วยเครื่องจักร
9. การประมวลผลข้อมูลวิธีใด ที่เหมาะจะใช้กับงานที่มีปริมาณข้อมูลมากๆ
ต้องการความรวดเร็วและมีขั้นตอนการประมวลผลที่ซับซ้อน
ก. การประมวลผลด้วยคอมพิวเตอร์
10. EDP เป็นการประมวลผลข้อมูลด้วยวิธีใด
ก. การประมวลผลด้วยคอมพิวเตอร์

11. ข้อใดจัดเป็นกรรมวิธีในการประมวลผลข้อมูล
ง. ถูกทุกข้อ

12. ขั้นตอนการนำข้อมูลที่เก็บรวบรวมได้มาบันทึกเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์
จัดเป็นขั้นตอนใดในกรรมวิธีการประมวลผลข้อมูล
ข.การบันทึกข้อมูล

13. ขั้นตอนการนำขอ้มูลที่บันทึกเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์แล้วนำไปจัดเก็บลงในแฟ้มข้อมูล จัดเป็นขั้นตอนใดในกรรมวิธีการประมวลผลข้อมูล
ค. การจัดเก็บข้อมูล
14.กรณีที่แฟ้มข้อมูลจริงเสียหารก็จะนำข้อมูลที่สำรองไว้มาติดตั้งลงในระบบคอมพิวเตอร์
เพื่อใช้งานแทน เราเรียกขั้นตอนนี้ว่าอะไร
ค. การสำรองข้อมูล

15. การสื่อสารข้อมูลสามารถทำได้โดยวิธีใดบ้าง
ง. ถูกทุกข้อ

วันอังคารที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2552

ส่งงานแบบประเมินผลการเรียนรู้บทที่ 2

แบบประเมินผลการเรียนรู้ที่ 2

ส่วนที่ 1 จงเลือกคำตอบที่ถูกต้องเพียงคำตอบเดียว

1. การสื่อสารข้อมูลในงานคอมพิวเตอร์ หมายถึง
ตอบ ค. การถ่ายทอดข้อมูลจากผู้ส่งไปยังผู้รับ
2.ทางเดินข้อมูลที่ถูกต้อง คือข้อใด
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ

3.ทางเดินสำหรับรับส่งข้อมูลระหว่างหน่วยประมวลผลกับหน่วยความจำ คือข้อใด
ตอบ ข.บัสข้อมูล

4.ทางเดินสำหรับส่งข้อมูลระหว่างหน่วยความจำกับอุปกรณ์รับข้อมูล/แสดงผลข้อมูล คือข้อใด
ตอบ ข. บัสข้อมูล

5.ทางเดินสำหรับถ่ายโอนตำแหน่งของหน่วยความจำที่ใช้เก็บข้อมูล คือข้อใด
ตอบ ค. แอดเดรสบัส

6.ทางเดินสำหรับรับส่งสัญญาณควบคุมที่จะควบคุมการทำงานของส่วนต่างๆ คือข้อใด
ตอบ ก. บัสควบคุม

7.ข้อใดคือส่วนประกอบของการสื่อสารข้อมูลระหว่างคอมพิเตอร์หลายเครื่อง
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ


8.ในการสื่อสารข้อมูล ข้อมูลที่ส่งไปอาจอยู่ในรูปใด
ตอบ ง.ถูกทุกข้อ

9.ข้อใดคือชนิดของสัญญาณข้อมูล
ตอบ ง. ถูกทั้งข้อ ก. และ ข.

10. สัญญาณชนิดใดที่มีลักษณะต่อเนื่องอยู่ในรูปแบบของคลื่น
ตอบ ก. สัญญาณแอนะล็อก

11. สัญญาณชนิดใดที่มีลักษณะไม่ต่อเนื่อง โดยการเปลี่ยนแปลงของสัญญาณจะเกิดขึ้นอย่างทันทีทันใดเวลาหนึ่ง
ตอบ ข. สัญญาณดิจิตอล

12. อุปกรณ์ที่ใช้แปลงสัญญาณคอมพิวเตอร์ คือ
ตอบ ค. โมเด็ม

13. ในการสื่อสารข้อมูล ข้อใดเป็นลักษณะของการรับ-ส่งข้อมูล
ตอบ ง. ถูกทั้งข้อ ก. และ ข.

14. การส่งข้อมูลทีละ 1 ตัวอักขระ จัดเป็นการส่งข้อมูลแบบใด
ตอบ ก. แบบ Asynchronous

15. การส่งข้อมูลเป็นกลุ่มๆ หรือ Packet จัดเป็นการส่งข้อมูลแบบใด
ตอบ ข. แบบ Synchronous

16. ข้อใดเป็นการสื่อสารข้อมูลในลักษณะที่ผู้ส่งข้อมูลจะส่งแต่เพียงฝ่ายเดียว ผู้รับข้อมูลก็จะรับได้เพียงอย่างเดียว ไม่สามารถโต้ตอบกันได้ในเวลาเดียวกัน
ตอบ ก. การสื่อสารแบบ Simple Duplex

17. ข้อใดเป็นการสื่อสารข้อมูลในลักษณะที่ผู้ส่งข้อมูลและผู้รับข้อมูลจะสามารถโต้ตอบกันได้ในเวลาที่ต่างกัน
ตอบ ข. การสื่อสารแบบ Half Duplex

18. ข้อใดเป็นการสื่อสารข้อมูลในลักษณะที่ผู้ส่งข้อมูลและผู้รับข้อมูลสามารถทำหน้าที่เป็นได้ทั้งผู้ส่งและผู้รับได้ในเวลาเดียวกัน
ตอบ ค. การสื่อสารแบบ Full Duplex

19. สื่อที่ใช้เป็นช่องทางการสื่อสารข้อมูลที่มีลักษณะเป็นสายทองแดงหุ้มฉนวนบิดไขว้กัน คือ
ตอบ ก. สายเกลียวคู่


20. สื่อที่ใช้เป็นช่องทางการสื่อสารข้อมูลที่มีลักษณะเป็นสายที่มีแกนกลางทำด้วยทองแดง 1 เส้น
หุ้มด้วยฉนวน คือ
ตอบ ข. สายเคเบิลแบบมีแกนกลาง

21. สื่อที่ใช้เป็นช่องทางการสื่อสารข้อมูลที่มีลักษณะเป็นสายที่ประกอบจากใยแก้วจำนวนมากรวมกัน มีขนาดหนาเท่ากับเส้นผมประกอบอยู่ในสาย คือ
ตอบ ค. เส้นใยนำแสง

22. ช่องทางการสื่อสารข้อมูลที่มีลักษณะเป็นการสื่อสารแบบไร้สาย
ตอบ ง. สัญญาณไมโครเวฟ


23. การเชื่อมต่อสัญญาณจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง เป็นการเชื่อมต่อแบบใด
ตอบ ข. แบบ Point – to - Point

24. การเชื่อมต่อสัญญาณจากจุดหนึ่งไปยังจุดรับสัญญาณอีกหลายๆจุด เป็นการเชื่อมต่อแบบใด
ตอบ ก. แบบ Broadcast

25. ข้อใดเป็นคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กที่ทำหน้าที่ในการรับข้อมูลจากเทอร์มินัสที่ต่อเชื่อมอยู่กับ
Host และรับผลจากการประมวลผลที่ Host ส่งกลับไปยังเทอร์มินัสที่ติดต่ออยู่
ตอบ ข. Front – End - Processor

26. ข้อใดเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ทำหน้าที่ควบคุมการสื่อสารข้อมูลระหว่างหน่วยประมวลผลกลางกับอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออยู่กับระบบ
ตอบ ง. Controller

27. ข้อใดเป็นเครื่องมือที่ช่วยในการหาเส้นทางการับ – ส่งข้อมูลระหว่างเครื่องแม่ข่ายกับเครื่องอื่นๆในระบบเครือข่าย
ตอบ ก. Router

28. ข้อใดเป็นอุปกรณ์เชื่อมต่อระหว่างเครือข่ายคอมพิวเตอร์หนึ่งกับระบบเครือข่ายอื่นที่มีความแตกต่างกัน
ตอบ ข. Gateway

29. ข้อใดเป็นอุปกรณ์ที่ใช้เชื่อมต่อระบบ LAN เข้าด้วยกัน
ตอบ ค. HUB

30. ข้อใดเป็นอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่ขยายสัญญาณและทำการทวนซ้ำ
ตอบ ค. Repeater

31. ข้อใดเป็นอุปกรณ์รับ – ส่งข้อมูลระหว่างระบบเครือข่ายท้องถิ่น 2 วง
ตอบ ง. Bridge

32. ข้อใดไม่ใช่การเชื่อมต่อระบบคอมพิวเตอร์เข้าด้วยกันเป็นระบบเครือข่าย
ตอบ ง. เครือข่ายรูปแบบโทเค็น

33. ข้อใดเป็นการเชื่อมต่อระบบคอมพิวเตอร์หลายๆเครื่องเข้าด้วยกัน
ตอบ ก. เครือข่ายรูปแบบดาว

34.ข้อใดเป็นการนำคอมพิวเตอร์มาเชื่อมต่อกันเป็นรูปวงแหวน
ตอบ ค. เครือข่ายรูปวงแหวน

35. ในระบบ Internet จะมีการใช้โปรโตคอลใด
ตอบ ค. TCP/IP

วันจันทร์ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

แบบฝึกหัดหลังเรียนบทที่ 1

แบบประเมินผลการเรียนรู้ บทที่ 1

1.ข้อใดไม่ใช่คุณสมบัติของคอมพิวเตอร์
ตอบ ค. ทำงานแทนมนุษย์ได้ทุกอย่าง

2. คอมพิวเตอร์ชนิดใดที่สามารถประมวลผลข้อมูลที่มีลักษณะเป็นสัญญาณต่อเนื่อง
ตอบ ก. แอนนะล็อกคอมพิวเตอร์

3.ข้อใดเป็นการแบ่งประเภทคอมพิวเตอร์ตามลักษณะข้อมูลที่นำมาประมวลผล
ตอบ ก.ดิจิตอลคอมพิวเตอร์

4.คอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ที่สุด คือ
ตอบ ข.ซูปเปอร์คอมพิวเตอร์

5. ข้อใดเป็นลักษณะคอมพิวเตอร์ใช้งานเฉพาะกิจ
ตอบ ค.ใช้คอมพิวเตอร์ควบคุมการเดินเรือ

6.หน่วยประมวลผลกลางของไมโครคอมพิวเตอร์ ทำจากแผงวงจรรวมที่เรียกว่า
ตอบ ง.IC

7. คอมพิวเตอร์ชนิดใด ไม่จัดเป็นไมโครคอมพิวเตอร์
ตอบ ข.Minicomputer

8.ลักษณะงานที่เหมาะจะนำคอมพิวเตอร์ไปใช้คือ
ตอบ ง.ถูกทุกข้อ

9.งานใดที่ไม่จำเป็นต้องใช้คอมพิวเตอร์
ตอบ ค.การปรุงอาหาร

10.งานใดที่มีการใช้คอมพิวเตอร์แบบไฮบริดคอมพิวเตอร์
ตอบ ข.การพยากรณ์อากาศ

11.อุปกรณ์ใดจัดเป็นหน่วยรับข้อมูลเท่านั้น
ตอบ ข.แป้นพิมพ์

12.อุปกรณ์ใดจัดเป็นหน่วยแสดงผลเท่านั้น
ตอบ ก.เครื่องพิมพ์

13.อุปกรณ์ใดที่เป็นได้ทั้งหน่วยรับข้อมูลและหน่วยแสดงผล
ตอบ ง.ถูกทุกข้อ

14.หน่วยใดที่ทำหน้าที่ประมวลผลข้อมูล
ตอบ ค.หน่วยประมวลผลกลาง

15.ขณะที่เปิดเครื่องคอมพิวเตอร์อยู่ หน่วยใดที่ทำหน้าที่เก็บข้อมูลชั่วคราว
ตอบ ข.หน่วยความจำสำรอง

16.หน่วยใดที่ทำหน้าที่คำนวณและเปรียบเทียบทางตรรกะ
ตอบ ข.หน่วยคำนวณและเปรียบเทียบ

17.หน่วยใดที่ทำหน้าที่ควบคุมการทำงานของอุปกรณ์ต่างๆ
ตอบ หน่วยควบคุม

18.หน่วยใดที่ทำหน้าที่เก็บรักษาสำรองโปรแกรมหรือข้อมูลไว้ใช้งานต่อไป
ตอบ ข.หน่วยความจำหลัก

19.ข้อใดไม่ใช้หน่วยความจำสำรอง
ตอบ ค.เครื่องพิมพ์

20. โปรแกรมหรือชุดคำสั่งที่สั่งให้คอมพิวเตอร์ทำงาน คือ
ตอบ ข.ซอฟต์แวร์ประยุกต์

21. ประเภทของซอฟต์แวร์ คือ
ตอบ ง.ถูกทั้งข้อ ก. และ ข.

22.ข้อใดเป็นซอฟต์แวร์ระบบ
ตอบ ก.โปรแกรมระบบปฏิบัติการ

23.ข้อใดเป็นซอฟต์แวร์ประยุกต์
ตอบ ค.โปรแกรมสำเร็จรูปใช้งานด้านต่างๆ

24.บุคลากรทางคอมพิวเตอร์ คือข้อใด
ตอบ ง.ถูกทุกข้อ

25. ใครที่ไม่ใช่บุคลากรทางคอมพิวเตอร์
ตอบ ง.ไม่มีข้อใดถูกต้อง










ส่วนที่2 จงตอบคำถาม
1. คอมพิวเตอร์ คืออะไร
ตอบ คอมพิวเตอร์คือ อุปกรณ์ทางอิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถรับ และจดจำคำสั่งข้อมูลทั้งที่เป็นตัวเลข ตัวอักษร หรืออักขระพิเศษ เพื่อนำไปประมวลผลแล้วได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการอย่างถูกต้อง รวดเร็ว

2.แบ่งประเภทของคอมพิวเตอร์ตามลักษณะของข้อมูลที่จะนำมาประมวลผลได้เป็นกี่ประเภทอะไรบ้าง
ตอบ แบ่งได้ 3 ประเภท คือ 1. แอนะล็อกคอมพิวเตอร์ (Analog Computer)
2. ดิจิตอลคอมพิวเตอร์ (Digital Computer)
3. ไฮบริดคอมพิวเตอร์ (Hybird Computer)

3.แบ่งประเภทของคอมพิวเตอร์ตามลักษณะการใช้งานได้เป็นกี่ประเภท อะไรบ้าง
ตอบ แบ่งได้ 2 ประเภท คือ 1.คอมพิวเตอร์แบบใช้งานทั่วไป (General Purpose Computer)
2.คอมพิวเตอร์แบบใช้งานเฉพาะกิจ (Spicial Purpose Computer)

4.แบ่งประเภทของคอมพิวเตอร์ตามขนาดของเครื่องได้เป็นกี่ประเภท อะไรบ้าง
ตอบ แบ่งได้ 4 ประเภท คือ 1.ซูปเปอร์คอมพิวเตอร์ (Supercomputer)
2.เมนเฟรมคอมพิวเตอร์ (Mainframe Computer)
3.มินิคอมพิวเตอร์ (Minicomputer)
4.ไมโครคอมพิวเตอร์ (Microcomputer)

5. ลักษณะงานที่เหมาะจะนำคอมพิวเตอร์ไปใช้ ควรมีลักษณะอย่างไร
ตอบ 1. งานที่มีประมาณข้อมูลจำนวนมาก
2. งานที่ต้องมีการคำนวณซบซ้อน
3. งานที่ต้องทำซ้ำซาก หรือต้องทำงานในลักษณะเดิมซ้ำๆ
4. งานที่ต้องการความถูกต้อง แม่นยำ
5. งานที่ต้องการผลลัพธ์อย่างรวดเร็ว

6. ระบบคอมพิวเตอร์ ประกอบด้วยอะไรบ้าง
ตอบ1.ฮาร์ดแวร์ (Hardware)
2.ซอฟต์แวร์ (Software)
3.บุคลากรทางคอมพิวเตอร์ (Peopleware)
4.ข้อมูล (Data)

7. ฮาร์ดแวร์มีส่วนประกอบหลักอะไรบ้าง
ตอบ1.หน่วยรับข้อมูล (lnput Unit)
2.หน่วยประมวลผลกลาง (Central Processing Unit หรือ CPU)
3.หน่วยความจำหลัก (Main Memory Unit)
4.หน่วยแสดงผล (Output Unit)
5.หน่วยความจำสำรอง (Secondary Storage Unit)

8.หน่วยรับข้อมูล มีหน้าที่อะไรบ้าง และอุปกรณ์ที่จัดเป็นหน่วยรับข้อมูลมีอะไรบ้าง
ตอบ รับข้อมูลเข้าสู่เครื่องคอมพิวเตอร์
1.แป้นพิมพ์ (Keyboard)
2.เมาส์ (Mouse)
3.เครื่องกราดตรวจ (Scanner)
4.จอยสติกค์ (Joy Stack)
5.แทร็กบอลล์ (Trackball)
6.ปากกาแสง (Light Pen)

9.หน่วยประมวลกลาง มีหน้าที่อะไร
ตอบ มีหน้าที่ประมวลผลข้อมูลตามโปรแกรมหรือคำสั่งที่ได้รับ และ ยังมีหน้าที่ในการควบคุมการทำงานของอุปกรณ์ต่างๆ ที่ต่ออยู่กับคอมพิวเตอร์



10.อธิบายส่วนประกอบของหน่วยประมวลผลกลาง
ตอบ1.หน่วยคำนวณและเปรียบเทียบ (Arithmetic and Logical Unit หรือ ALU)
มีหน้าที่ในการคำนวณและเปรียบเทียบ
2.หน่วยควบคุม (Control Unit)
มีหน้าที่ควบคุมการทำงานของอุปกรณ์ต่างต่างที่ติดอยู่กับคอมพิวเตอร์

11.จงบอกหน้าที่ของหน่วยความจำหลัก
ตอบ มีหน้าที่เก็บข้อมูลชั่วคราวขณะเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์อยู่ ข้อมูลที่รับเข้ามาจาก หน่วยรับข้อมูลจะถูกนำมาเก็บที่หน่วยความจำหลัก เพื่อรอส่งไปทำการประมวลผลต่อไป

12.จงบอกหน้าที่ของหน่วยแสดงผล
ตอบ มีหน้าที่ในการแสดงข้อมูลหรือผลลัพธ์ที่ได้จากการประมวลผล

13.จงบอกหน้าที่ของหน่วยความจำสำรอง
ตอบ มีหน้าที่เก็บสำรองข้อมูลหรือโปรแกรมไว้ใช้งานในเวลาต่อไป

14.ซอฟต์แวร์ คืออะไร
ตอบ คือ โปรแกรมหรือชุดคำสั่งที่สั่งให้คอมพิวเตอร์ทำงาน

15. ซอฟต์แวร์แบ่งเป็นกี่ประเภท อะไรบ้าง
ตอบ แบ่งเป็น 2 ประเภท 1. ซอฟต์แวร์ระบบ (System Software)
2. ซอฟต์แวร์ประยุกต์ (Application Software)